1. การเข้าใจถึงความต้องการของผู้สูงอายุ
ก. คำนำ
ประมาณสามสิบปีที่แล้วเป็นต้นมาขนาดของครอบครัวเริ่มเล็กลง การที่เด็กเกิดน้อยลง
ตลอดจนการพัฒนาสาธารณสุขและการแพทย์ดีขึ้นทำให้อายุเฉลี่ยของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึง
70-80 ปี ส่วนอัตราคนหนุ่มสาววัยทำงานที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุมีจำนวนลดลง
สถานการณ์เช่นนี้เราเรียกกันว่า "สภาวะประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น"
ก่อให้เกิดการท้าทายสำหรับครอบครัว สำหรับการอภิบาล ต่อรัฐ และองค์กรที่มีหน้าที่ให้การรักษาพยาบาล
ผลการวิจัยพบว่า สตรีคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบหลักในการดูแลผู้สูงอายุ
มีช่องว่างระหว่างการพัฒนาด้านวัฒนธรรมระหว่างชายกับหญิง ในขณะที่สตรีทำงานมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจ
และอีกด้านหนึ่งผู้ชายก็รับผิดชอบงานบ้านหรือดูแลเลี้ยงบุตรมากขึ้นด้วย
นั่นหมายความว่า สตรีเป็นจำนวนมากที่ต้องทั้งทำงานหาเงิน ดูแลครอบครัว
รวมถึงผู้สูงอายุด้วยโดยแทบจะไม่มีใครช่วยเลย
สภาพการณ์เช่นนี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
โดยผลกระทบจากอัตราการเติบโตของประชากรลดลงในบ้านและสังคมของเรา
ในฐานะที่เป็นคริสตชนเราควรที่จะอยู่แนวหน้าในการให้การบริการและการเอาใจใส่ดูแลผู้ที่อ่อนแออยู่ชายขอบสังคม
หรือ "ไร้ค่า" ต่อเศรษฐกิจ หากเรามองข้ามปัญหาและการท้าทายเหล่านี้
เราก็คือคนที่น่าสงสารยิ่งกว่า ในขณะที่คุณปู่คุณย่าของเรานอนอยู่คาเตียงโดยไม่มีใครให้ความสนใจ
ทั้งๆ ที่พวกเขากำลังเผชิญกับอันตรายมากที่สุดในบริบทแห่ง "ผู้ที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่รอด"
เราจำต้องตระหนักให้ดีในเรื่องนี้ ต้องรู้ข้อมูล ต้องมีความชำนาญในการเตรียมตัวเตรียมใจที่จะต้องรับผิดชอบต่อภารกิจที่กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า
เราต่างทราบกันดีว่า ผู้สูงอายุของเราก็เหมือนเรา
คือต่างพยายามที่จะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว เพื่อนฝูงและเพื่อนบ้าน
ในสองสามหน้าต่อไปนี้ เราหวังที่จะชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นบางอย่างของผู้สูงอายุ
และคำแนะนำเมื่อต้องไปเยี่ยมพวกเขา
ข. ลักษณะบางประการของผู้สูงอายุ
@จิตวิทยา
เมื่อต้องเผชิญกับความจริงว่าตนอายุมากแล้ว บางคนเกิดความกลัวและกังวลใจ
พวกเขาอาจต้องการที่จะแก้ไขความผิดพลาดบางอย่างในอดีต หรือพูดคุยถึงความสุขความทุกข์เศร้าของตน
จึงสมควรอย่างยิ่งที่ญาติมิตรสหายจะต้องใช้เวลาอยู่กับเขา ปล่อยให้เขามีโอกาสแสดงความคิดเห็น
แต่การทำเช่นนี้ใช่ว่าจะเป็นของง่ายเสมอไป ดังนั้นเพื่อนบ้านที่ดีอาจช่วยในเรื่องนี้ได้มาก
ความต้องการยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งของผู้สูงอายุ คือความรู้สึกว่าตนยังเป็นที่ต้องการ
ส่วนความรู้สึกที่ว่าตนเป็นภาระต่อคนอื่น เป็นคนไร้ประโยชน์ และเป็นผู้ที่น่าละอายสำหรับครอบครัว
เหล่านี้คือภาระหนักหน่วงที่สุดต่อจิตใจของผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุบางคนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายทั้งที่มีลูกหลานมากมาย
หรือแม้จะอาศัยอยู่กับลูกคนหนึ่งคนใดก็ตาม ควรถือเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องมีความรู้สึกไวต่อปัญหาที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัวของเขา
ฝ่ายผู้สูงอายุเองก็อาจขาดตกบกพร่องด้วยความที่เรียกร้องมากเกินไป
หรือทำอะไรที่ไม่ค่อยสบอารมณ์คนอื่น ก่อนที่ท่านจะตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตามต้องใช้ความเยือกเย็น
คอยสังเกตและฟังโดยไม่ต้องถามโน่นถามนี่จุกจิกเมื่อไปเยี่ยมผู้สูงอายุ
พยายามที่จะทำให้เขารู้ถึงความสำคัญและปรีชาญาณของเขา
ผู้สูงอายุต้องการคนฟังเรื่องราวของเขา ถึงเขาจะเล่าเรื่องเก่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่ได้เล่าเรื่องของตน ใครที่อยากไปเยี่ยมผู้สูงอายุต้องทำใจและสวดภาวนา
คือยอมรับได้กับเรื่องที่พูดซ้ำซากหรือการบ่นจู้จี้ของผู้สูงอายุ
อีกประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน คือเขาต้องรู้สึกว่าท่านอยากแบ่งปันชีวิตของท่านกับเขาด้วย
จงเล่าเรื่องครอบครัว การงาน และปัญหาครอบครัวของคุณให้ท่านฟัง ผู้สูงอายุชอบที่จะให้คำแนะนำ
@สุขภาพกาย
การเคลื่อนไหว
การเดินขึ้นบันได หรือเข้าออกห้องน้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ทั้งนั้น
เพราะการลื่นล้มอาจมีผลร้ายแรงตามมา ผลการตรวจผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยพบว่า
กระดูกของพวกเขาพรุนสามารถแตกหักได้ง่าย หากกระดูกเกิดหักขึ้นมาอาจมีอาการแทรกซ้อนตามมาด้วย
เช่น โรคเส้นเลือดขอด ซึ่งเกิดจากการที่อยู่เฉยๆ ทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่สะดวก
อาการปวดตามข้อ กล้ามเนื้อหรือประสาท ไม่ควรปล่อยปะละเลย การมีอายุมากไม่จำเป็นต้องหมายความว่า
คนนั้นจะต้องทนความเจ็บปวดมากขึ้นไปตามอายุขัย การผ่อนคลายความเจ็บปวด
การควบคุมอาการปวด ล้วนมีทางทำได้ ต้องพาไปหาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
การเห็น
ทันทีทันใดเราจะพบว่า เราไม่สามารถอ่านเครื่องหมายจราจรได้ง่ายๆ
แล้ว เราไม่สามารถอ่านหนังสือตัวเล็กๆ ในหน้ากระดาษ ตัวอักษรบนหน้าหนังสือพิมพ์กระเพื่อมไปมาหลังจากที่เราอ่านไปได้พักเดียว
แว่นตาอาจช่วยได้ถ้าไม่มีอาการอื่นเข้ามาแทรก เช่น ต้อหินหรือต้อกระจก
อาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อถึงวัยสูงอายุ จงอย่าปล่อยให้เลยตามเลยแต่ต้องรีบไปหาแพทย์โดยเร็ว
ทุกวันนี้แว่นขยายที่มีขายอยู่ทั่วไปสามารถช่วยได้มากในการอ่านหนังสือพิมพ์หรือหนังสือที่พิมพ์ตัวเล็กๆ
การฟัง
เรื่องของการฟังก็เช่นเดียวกัน วันดีคืนดีเราอาจจะได้พบว่า เราไม่สามารถได้ยินบทเทศน์ของพระสงฆ์ได้อย่างชัดเจนหรือตามการสนทนาไม่ทัน
ซึ่งเราก็อาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าหูของเราเสื่อมลงแล้ว บ่อยครั้งผู้สูงอายุจะตกอยู่ในสภาพที่ได้ยินเสียงสารพัดรอบตัว
ได้ยินคนสนทนา ได้ยินเสียงดนตรี เสียงการจราจร ฯลฯ ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการฟังจะลำบากใจมาก
ฉะนั้นปัญหาการสูญเสียการฟัง อาจแปลว่า มีเสียงฮัมในหูตลอดเวลา หรือรู้สึกปวดหู
หรือเพราะเยื่อหูเกิดอาการแห้งหรือเสื่อม
รสชาติ
บางครั้งยาบางชนิดทำให้ตุ่มประสาทรับรสชาติของเราได้รับผลกระทบ คือ
ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไรดูมันจืดชืดไปหมด ดังนั้นอย่ารีบด่วนตัดสินว่า
"คนแก่จู้จี้" ขอให้ตั้งใจฟังให้ดีถึงคำอธิบายหรือการบ่น
และพยายามปฏิบัติตามเท่าที่จะสามารถทำได้หลังจากที่ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบทุกอย่างแล้ว
ถามเขาว่ามียาอะไรบ้างไหมที่เขารับประทานแล้วไปมีผลกระทบต่อรสชาติ
นอกเหนือไปจากเรื่องของรสชาติ ผู้สูงอายุหลายคนไม่ได้รับการเอาใจใส่ที่ดีในเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ
เป็นเหตุให้เกิดฟันโยก หรือฟันหลอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอาหารเหลว
เพราะไม่สามารถเคี้ยวอาหารแข็งได้
อารมณ์เปลี่ยนแปร
ปัญหาทั่วไปของผู้สูงอายุได้แก่อารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ เพราะไม่สามารถควบคุมอวัยวะบางอย่าง
นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาขาดความรู้สึกทุกอย่าง พวกเขาจะรู้สึกอายตัวเองและเกิดเป็นปมด้อย
จึงต้องได้รับการปรนนิบัติด้วยความรอบคอบและต้องทราบถึงต้นเหตุของปัญหา
ขอย้ำอีกครั้ง อย่ายอมรับสภาพการณ์ใดสภาพการณ์หนึ่งแล้วปล่อยเลยตามเลย
แต่จะต้องรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาต้นตอของปัญหา
อาหารสำหรับผู้สูงอายุ
บ่อยครั้งเมื่อเราไปเยี่ยมผู้สูงอายุ เรามักจะนำเอาอาหารจำพวกซุปอัดแห้งไปฝากเพื่อเป็นอาหารสำหรับสุขภาพ
ปริมาณโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ผู้สูงอายุรับประทานควรจะต้องมีการควบคุม
เนื่องจากไตของพวกเขาไม่สามารถจัดการกับโปรตีนได้เหมือนก่อน อาหารที่มีโปรตีนสูงอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้จนอาจถึงขั้นไตวาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไตทำงานได้ไม่เต็มที่
Home
<< __Back
<< __>> Next
|